พอพพ์ยิง 1 จ่าย 1! เมืองทองบุกหั่นชลบุรีถึงถิ่น เฮ 2 นัดติดจี้ท็อปโฟร์ 2 แต้ม

วิลเลี่ยน พอพพ์ วอลเล่ย์สุดงาม ก่อนเปิดให้ แดร์เลย์ ยิงอีกเม็ด ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ บุกเฉือน ชลบุรี ถึงถิ่น 2-1 ส่งผลให้ “กิเลนผยอง” เฮ 2 เกมติด อยู่อันดับ 6 ของตารางห่างจากท็อปโฟร์เพียง 2 แต้ม ขณะที่ “ฉลามชล” พ่าย 3 นัดรวด อยู่ที่ 11

ฟุตบอลไทยลีก 2020

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564

ชลบุรี เอฟซี 1-2 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

    การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2020/2021 เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2564 ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม เวลา 18.30 น. เป็นเกมศึก “เอลกลาซิโก้เมืองไทย” คู่ระหว่าง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 10 ของตาราง ที่มี 22 แต้ม จาก 17 นัด เปิดบ้านรับมือ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 ของตาราง ที่มี 25 แต้ม จาก 17 นัด โดยผลงานการเจอกันช่วงเลกแรกผลปรากฏว่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูชัยของ แดร์เลย์ ในนาทีที่ 18

    รายชื่อคณะกรรมการ ผู้ตัดสิน : ชัยฤกษ์ งามสม ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 : วิโรจน์ ลอคำ ,ผู้ช่วยผู้ช่วยตัดสินที่ 2 : สุเมธ เปียศิริ ,ผู้ตัดสินที่ 4 : อาคม เจริญสุข ,ผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดิโอ 1 : อนุสรณ์ หนูแก้ว ,ผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ 2 : ราวุฒิ นาคฤทธิ์,ผู้ควบคุมการแข่งขัน : ปกาสิต สุวรรณานนท์ ,ผู้ประเมินผู้ตัดสิน : ชาติชาย เปรมสุข

    เริ่มเกม น.13 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูนำจากลูกสวนกลับเร็ว วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ ตัดบอลได้ตรงหน้าเขตโทษตัวเอง ก่อนจ่ายไปทางซ้ายให้ วิลเลี่ยน พอพพ์ เงยหน้ามองเพื่อนและเปิดข้ามไปฝั่งซ้ายให้กับ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ รับบอลลงและไหลต่อให้กับ แดร์เลย์ ที่สอดขึ้นมาทางขวาก่อนพายอลเข้าเขตโทษ แต่ดันยิงไปติดเซฟ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่วิ่งออกมาป้องกันได้เร็ว

 
    น.15 เจ้าถิ่นฉลามชล เกือบได้ประตูออกนำบ้างจากลูกฟรีคิกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ วิ่งเข้ามาปั่นบอลเลียดข้ามกำแพงกำลังจะเสียบเเสาอยู่แล้ว แต่ทาง สมพร ยศ ยังบินมาปัดทิ้งออกหลังได้ทัน
 
    น.24 ชลบุรี เอฟซี ได้โอกาสอีกครั้งเมื่อ นพนนท์ คชพลายุกต์ พาบอลถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนจะปากบอลเข้ามาตรงกลาง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ยืนตั้งป้อมซัดเต็มข้อ แต่บอลดันเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
 
    น.32 เจ้าถิ่นฉลามชล น่าจะได้ประตูขึ้นนำเมื่อ ภานุพงศ์ พลซา หลุดเช็คกับดักล้ำหน้า ก่อนจะตะบันด้วยเท้าขวาบอลเต็มข้อพุ่งแรงหมดสิทธิ์สำหรับ สมพร ยศ ไปแล้ว แต่โชคดีที่บอลดันไปชนเสาออกหลังไปหวุดหวิด

 
    น.36 เอลิอันโดร กองหน้าตัวเก่งของชลบุรี เอฟซี ได้ซัดเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษ แต่ทางสมพร ยศ ยังยืนตำแหน่งได้ดีโชว์ซุปเปอร์เซฟพุ่งชกทิ้งไว้ได้ทัน
 
    ประตูแรกของเกมนี้ต้องรอถึงช่วงทดเวลาเจ็บนาทีแรกของครึ่งแรก ทีมเยือน “กิเลนผยอง” ได้จังหวะโต้กลับเร็ว แดร์เลย์ พาบอลกระชากขึ้นมาทางขวา ก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษ กฤษดา กาแมน โหม่งเคลียร์ สกัดไม่ดีมาเข้าทาง วิลเลี่ยน พอพพ์ วอลเลย์ด้วยซ้ายเข้าประตูไปอย่างสวยงามช่วยให้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด บุกมานำ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

    ครึ่งหลังในนาทีที่ น.80 วิลเลี่ยน พอพพ์ วางบอลยาวให้ แดร์เลย์ ที่หลุดกับดักล้ำหน้า เข้าไปยิงประตู ช่วยให้ เมืองทอง บุกนำ ชลบุรี 2-0

    เข้าสู่ครึ่งหลัง น.56 ชลบุรี เอฟซี น่าจะได้ประตูเสมอจากจังหวะที่ กฤษดา กาแมน ได้กดเต็มข้อบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงไปชนเสากระเด้งมาโดนหลังของ สมพร ยศ มือกาวจอมหนึบของทีมเยือน ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
 
    หลังจากนั้นเกมเป็นของชลบุรี เอฟซี ที่ครองบอลได้เหนือกว่า แต่ยังไม่สามารถพาบอลไปในพื้นที่สุดท้ายเพื่อจบสกอร์ได้เลย สวนทางกับทีมเยือน “กิเลนผยอง” ที่ตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่น และพาโอกาสสวนกลับเป็นระยะ 
 
    น.80 กลายเป็นทีมเยือนเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำเมื่อ วิลเลี่ยน พอพพ์ กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาในเขตโทษ ก่อนที่ แดร์เลย์ จะโฉบเข้ามาสะกิดบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไปช่วยให้ทีมเยือนบุกมาหนีเป็น 2-0 อย่างไรก็ดีผู้ตัดสิน ชัยฤกษ์ งามสม มีการฟัง VAR จากห้องควบคุมเพื่อเช็คว่าจังหวะนี้ แดร์เลย์ ล้ำหน้าหรือไม่ แต่สุดท้ายตัดสินให้ประตูกับทีมเยือนอยู่ดี เพราะเมื่อดูจาพภาพช้า แดร์เลย์ หลุดเช็คกับดักล้ำหน้าพอดิบพอดี

 
    น.90 เจย์ซี่ จอหน์ มาทำประตูให้เจ้าถิ่น “ฉลามชล” ได้ตามมาเป็น 1-2 ทำให้เจ้าถิ่นมีหวังในช่วงทดเวลาเจ็บอีก 5 นาที ทว่าช่วงเวลาทดเจ็บที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติมก่อนจบเกม ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านแพ้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-2 ทำให้ทัพ “ฉลามชล” ลงสนาม 18 นัด มี 22 แต้มเท่าเดิม และรั้งที่ 10 ของตาราง ส่วนพลพรรค “กิเลนผยอง” ลงสนาม 18 นัด มีเพิ่มเป็น 28 แต้ม รั้งที่ 6 ของตาราง
 
    สำหรับเกมต่อไปทั้งสองทีมตะลงเตะในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.พ.64 ชลบุรี เอฟซี จะบุกเยือนตราด เอฟซี ที่สนามกีฬากลาง จ.ตราด เวลา 19.00 น. ส่วนเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะกลับไปเล่นในบ้านรับมือ สุโขทัย เอฟซี ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เวลา 18.30 น.

    รายชื่อผู้เล่นและคะแนนความสามารถ

    ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (ผู้รักษาประตู) 6.5, นพนนท์ คชพลายุกต์ 6.5 (กาฟาร์ ดูโรซินมี่ 6 แทน น.59), กฤษดา กาแมน 6.5, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ 6.5 (สิทธิโชค ภาโส แทน น.74), เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ 6.5, จูเนียร์ เอลด์สตอล 6.5, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ 6 (รังสรรค์ วิรุฬห์ศรี แทน น.74), ภานุพงศ์ พลซา 6.5, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว 6.5 (เสฏฐวุฒิ วงศ์สาย แทน น.83), เอลิอันโดร 6 (เจย์ซี่ จอร์น 5.5 แทน น.74), เรนาโต้ เคลิช 6.5
 
    เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : สมพร ยศ (ผู้รักษาประตู) 8.5, ลูคัส โฮช่า 8.5, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ 8, ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ 7 (ฉัตรมงคล ทองคีรี แทน น.76), วีระเทพ ป้อมพันธุ์ 7.5, วิลเลี่ยน พอพพ์ 8, วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ 7 (พิชา อุทรา 6.5 แทน น.65), วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร 7.5, ชาติชาย แสงดาว 8, วัฒนา พลายนุ่ม 7.5, แดร์เลย์ 8.5 (ปรเมศย์ อาจวิไล แทน น.90)

    แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : แดร์เลย์ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด