รายชื่อผู้เล่นของ “ปีศาจแดง” ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดลงสนามเป็นตัวจริงแมตช์ดังกล่าวประกอบไปด้วย ริคาร์โด้, โลร็องต์ บล็องก์, จอห์น โอเชีย, แดนนี่ พิวจ์, มาร์ค ลินช์, ฟิล เนวิลล์, ลี โรช, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, นิคกี้ บัตต์, ไรอัน กิ๊กส์ และ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน
ส่วนตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาได้แก่ คีแรน ริชาร์ดสัน, ไมเคิ่ล สจ๊วร์ต และ แดนนี่ เว็บเบอร์ ซึ่งผลการแข่งขันเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายพ่ายไป 0-2
ในวันนั้น ผู้เล่นที่ได้ลงสนามเกมถ้วยใหญ่ยุโรปเป็นครั้งแรก คือ ลี โรช เด็กปั้นของสโมสร แต่ทว่าอีก 2 เดือนต่อมาเขากลับถูกปล่อยตัวฟรี และกลายเป็นส่วนเกินของโลกฟุตบอลในระยะเวลาแค่ไม่นาน จนต้องเปลี่ยนแผนการดำเนินชีวิตใหม่ และเขาก็ได้รับการช่วยเหลือจาก สมาคมนักฟุตบอลอาชีพ หรือ พีเอฟเอ
ถึงตอนนี้ โรช ในวัย 40 ปี ได้เปลี่ยนสถานะจากพ่อค้าแข้งบนผืนหญ้าสี่เหลี่ยมเป็นคนทำงานในสถานที่ก่อสร้าง โดยมีหน้าที่หลักๆ คือทำฉนวนบนกำแพง รวมถึงรับงานการวางก่อน้ำประปา
ประสบการณ์ครั้งแรก
เดิมที โรช ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด 2 เกม ทว่ามันคือสองเกมที่ไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุดของ “ปีศาจแดง”
การลงสนามครั้งแรกเกิดขึ้นในเกมบอลถ้วย อย่าง เวิร์ทธิงตัน ลีก คัพ ในปี 2001 ซึ่งผลจบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อ อาร์เซน่อล 0-4 ในชุดที่ แมนยู ขนผู้เล่นสำรองลงสนาม
“ซิลแว็ง วิลตอร์ ทำแฮตทริก และผมก็จำได้ว่าการรับมือกับ คานู มันหนักหนามาก ผมทึ่งกับขนาดเท้าของเขามากทีเดียว” โรช กล่าวติดตลก
“มีช่วงหนึ่ง เขากระดกบอลข้ามหัวของผม และวอลเล่ย์ แต่ดีนะที่บอลข้ามคานออกไป มิเช่นนั้นมันจะเป็นหนึ่งในหลายๆ ประตูที่จะถูกจดจำไปตลอด”
“แต่หลังจากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ ก็ไม่ได้จะตวาดอะไรเลย เพราะเขารู้ดีว่าเราลงเล่นแบบเสียเปรียบตั้งแต่ต้น ครับ ผมนำสิ่งที่ได้จากเกมนั้นพยายามจะเรียนรู้จากมัน”
หนึ่งปีต่อมา โรช ลงเล่นในฐานะตัวสำรองเกมเจอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ต่อหน้าแฟนบอลที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในชัยชนะเหนือ “เดอะ แม็กพายส์” 5-3
“มันน่าเหลือเชื่อมาก มีแฟนบอลกว่า 75,000 คนต่อหน้าที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด”
“ผมก็ทำได้ดีนะ แต่ผมจำได้ว่า เซอร์ อเล็กซ์ มาคุยกับผมตอนหลัง เพราะผมโดน อลัน เชียร์เรอร์ โฉบเข้ามาโหม่งตัดหน้าที่เสาสอง ดังนั้นเขาเลยบอกว่าให้เป็นบทเรียน และอย่าปล่อยให้กองหน้าทำแบบนั้นอีก”
ศึกที่ยิ่งใหญ่
เกมที่สามของ โรช และเป็นเกมสุดท้ายในสีเสื้อ “เร้ด เดวิลส์” คือเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กล่าวไปตั้งแต่ตอนต้น
เขามีชื่อในเกมบุกเยือน ลา คอรุนญ่า ซึ่งในตอนนั้น “ซูเปอร์ เดปอร์” คือทีมระดับหัวแถวของ ลาลีกา และเป็นคู่แข่งของ เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ที่ลีก สเปน
โรช ลงเล่นเป็นหนึ่งในแนวรับสามคนเคียงข้าง โลร็องต์ บล็องก์ และ จอห์น โอเชีย โดยเกมของ ยูไนเต็ด ไม่ค่อยปะติดปะต่อกันเท่าไหร่ เนื่องจากแผนการเล่นที่เปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม โรช กลับถูกเปลี่ยนตัวออกตอนหมดครึ่งแรก ในขณะที่ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก ตามหลังอยู่ 0-1
“ผมต้องเจอกับ อัลเบิร์ต ลูเก้ และคิดว่าผมก็ทำได้ดีนะ แต่กลายเป็นว่าโดนเปลี่ยนออก และเริ่มโต้เถียงกับ เซอร์ อเล็กซ์” โรช เผย
“กิ๊กซี่ บอกให้ผมสู้เข้าไว้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แถม เซอร์ อเล็กซ์ ไม่ได้บอกว่าทำไมถึงเปลี่ยนตัวผมออก แต่ผมก็ไม่ได้อยากจะคิดอะไรมาก”
มาถึงจุดสิ้นสุด
ตอนอายุ 27 ปี โรช รู้สึกเบื่อหน่ายกับเกมฟุตบอล
เขาย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วไปอยู่ เบิร์นลี่ย์ จากนั้นก็กลับไป เร็กซ์แฮม อีกครั้งหลังเคยถูกยืมตัวไปเล่นสมัยค้าแข้งกับ “ปีศาจแดง”
อาการบาดเจ็บเริ่มส่งผลกระทบต่ออาชีพค้าแข้ง และอดีตผู้เล่นทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ก็ไร้ความกระหายในการเล่น
“ผมกลับมาบ้าน และไม่อยากจะดูบอลทางทีวีเลย” เขาเผยกับ เพลเน็ต ฟุตบอล สื่อลูกหนังออนไลน์
หลังโดนปล่อยตัวออกจาก เร็กซ์แฮม เขาก็ไปร่วมซ้อมกับ สโมสรใน เบลเยี่ยม โรยัล อันท์เวิร์ป ที่ตอนนั้นมีอดีตโค้ชเยาวชน แมนยู อย่าง วอร์เรน จอนซ์ คุมทัพ
แต่เมื่อการย้ายทีมไม่ได้เกิดขึ้น เขาก็หันไปเซ็นสัญญากับ ดรอยล์สเด้น สโมสรนอกลีกของ อังกฤษ ในปี 2007
ซึ่งที่นั่นก็ทำให้ โรช เริ่มคิดถึงชีวิตในอนาคต เมื่อสิ้นสุดกับเกมฟุตบอล โดยทางสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ หรือ พีเอฟเอ ได้เข้ามาช่วยเหลือในการมุ่งหน้าสู่อาชีพอื่น
ทุกวันนี้ โรช เป็นช่างประปาอาชีพ และมีธุรกิจทำฉนวนบนกำแพง
“มีคนงานสองสามคนในไซต์งานเข้ามาถามผมเกี่ยวกับ ยูไนเต็ด และสงสัยว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
“มันค่อนข้างจะน่าเบื่อ ดังนั้นผมไม่ได้อยากที่จะเที่ยวประกาศว่าผมเคยเล่นให้ ยูไนเต็ด ผมคิดว่านักเตะเยาวชนในสมัยนี้ควรจะลองฝึกทำอย่างอื่นดูด้วย เพื่อที่พวกเขาจะได้มีความรู้ว่าโลกแห่งความจริงมันเป็นอย่างไร”
“พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะมีแผนรองรับเท่าไหร่ หากวันหนึ่งพวกเขาไม่ได้ก้าวไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพ”
ไม่เสียใจ
แม้ว่าอาชีพนักฟุตบอลจะไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง แต่ โรช ก็รู้สึกขอบคุณช่วงเวลาที่ใช้ไปกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
และถึงแม้เขาจะไม่ได้เสียใจอะไรเลย แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เขาอาจจะเลือกทำต่างไปจากเดิมหากย้อนเวลากลับไปได้
“ผมไม่มีอะไรต้องเสียใจ” เขาเผย
“สิ่งเดียวเท่านั้นที่ผมจะชี้ให้เห็นก็คือผมเป็นที่รู้จักตอนอยู่ ยูไนเต็ด ด้วยการเป็นคนที่เงียบๆ ดังนั้นบางทีผมก็ควรที่จะกล้าแสดงออก และคลุกคลีอยู่กับกับคนอื่นๆ มากกว่าเดิม”
“ผมมุ่งตรงกลับไปบ้านทันทีภายหลังจากฝึกซ้อมเสร็จเพื่อไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนของผม พอตอนนี้ผมมองย้อนกลับไปดูเพื่อนร่วมทีมของผมอย่าง จอห์น(โอเชีย) กับ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ผทก็คิดว่าผมควรจะทำได้เหมือนกันพวกเขา และออกไปเข้าสังคมมากกว่านี้”
“แน่นอนล่ะ ผมคิดว่าผมคงจะไปได้สวยกับ ยูไนเต็ด มากกว่านี้”
HOSSALONSO
Getty Images
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]
เผยแพร่: 27 พ.ค. 256…
This website uses cookies.