คอขวดโควิด! กับวิกฤติระลอก 3 ที่ผู้นำทีมสุดตุปัดตุเป๋ – สยามรัฐ

หมอศิริราชชี้การคัดแยกปอดอักเสบ ที่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทำให้การนำผู้ป่วยเข้ารักษาต้องล่าช้า ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและโชคดีมีผู้อนุโมทนา ระบุโควิดได้เร่งให้ระบบการแพทย์ทางไกลเป็นจริงได้เร็วขึ้น พร้อมเทียบผลงานทีมบอลไทยและวอลเลย์หญิง ไม่ต่างกับทีมโควิดไทยแลนด์ ที่ตัวเฮด

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ “ราวสามสัปดาห์กว่าที่แล้ว ในการประชุมเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์รับมือวิกฤตโควิด ปัญหาคอขวดหนึ่งในการเร่งนำผู้ป่วยจากชุมชนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล คือต้องคัดแยกว่าใครมีหรือไม่มีปอดอักเสบ เพื่อจะได้จัดเป็นผู้ป่วยสีเขียวถ้าไม่มีปอดอักเสบและไม่มีปัจจัยเสี่ยงโรครุนแรง และส่งไปรักษาในรพ.สนามหรือฮอสปิเตล เครื่องมือที่ใช้คัดแยกคือเอกซเรย์ปอด

ได้มีการบริจาคเครื่องเอกซเรย์ชนิดเคลื่อนย้ายได้ ทำให้สามารถนำไปใช้ในรพ.สนามสำหรับใช้เป็นสถานที่คัดแยกผู้ป่วยด้วยไปในตัว ปัจจุบันมีเครื่องที่สามารถใช้ประกอบกับ AI เพื่อช่วยรายงานผลโดยอัตโนมัติขั้นต้นว่ามีปอดอักเสบโควิดหรือไม่ และสามารถส่งภาพฟิล์มเอกซเรย์ขึ้นคลาวด์เพื่อให้แพทย์ที่อยู่นอกพื้นที่ยืนยันผลความผิดปกติที่ AI อ่านไว้ ถ้ายืนยันว่าผิดปกติเข้าได้กับปอดอักเสบโควิด แพทย์/พยาบาลที่รับผิดชอบก็จะให้สถานะผู้ป่วยเป็นสีเหลือง เริ่มให้ยาฟาวิพิราเวียร์ และเข้ากระบวนการแบ่งแยกความรุนแรงของปอดอักเสบว่าจะต้องใช้เตียงระดับไหนดูแล

มีผู้ใจบุญช่วยบริจาครถเอกซเรย์เคลื่อนที่ให้กับรพ.สนามหลายแห่ง พร้อมระบบ AI และการส่งภาพพร้อมผลการอ่านทางระบบสารสนเทศ ทำให้การทำงานในรพ.สนามคล่องตัวขึ้น ขออนุโมทนาบุญมาที่นี้ด้วย

สำหรับรพ.สนามที่ไม่มีรังสีแพทย์ร่วมปฏิบัติงาน เช่น รพ.ในทัณฑสถาน ต้องขอบคุณราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย ที่มีโครงการจัดหาอาสาสมัครช่วยอ่านฟิล์มแบบออนไลน์โดยใช้เครื่องเอกซเรย์และระบบงานตามข้างต้น งานนี้ทำให้ฟิล์มเอกซเรย์ผู้ป่วยที่มีหลักพันต่อวันถูกเคลียร์ไปรวดเร็ว และปัญหาคอขวดในการคัดแยกผู้ป่วยเพื่อจัดวิธีการและสถานที่รักษาให้เหมาะสมหมดสิ้นไปได้ขอบคุณโควิดที่ช่วยเร่งทำให้ระบบการแพทย์ทางไกลเป็นจริงเร็วขึ้น

ผู้ป่วยปอดอักเสบโควิดรายหนึ่งช่วงแรกอาการรุนแรงจนต้องใช้ไฮโฟลว์ ต่อมาดีขึ้นจนหยุดใช้เครื่องได้พักหนึ่งแล้วอาการเหนื่อยกลับแย่ลงใหม่ ในภายหลังพบว่าเกิดจาก Staphyllococcus pneumonia แทรกซ้อน เช่นเดียวกับที่พบตามหลัง influenza pneumonia โดยมีลักษณะรอยโรคในเอกซเรย์เป็นแบบ bronchopneumonia

เมื่อคืนอดนอนเชียร์ทีมบอลชายไทยพ่ายนัดชี้ชะตาตกรอบคัดเลือกบอลโลก บ่ายนี้อดทำงานเชียร์วอลเล่ย์บอลหญิงชุดเฉพาะกิจพ่ายนัดที่ 9 ติดต่อกัน ทั้งที่หวังลึกๆ ว่านัดนี้อาจชนะหรือถ้าแพ้ก็แพ้ห้าเซตแบบสูสี แต่กลายเป็นแพ้แบบไม่ได้เซต ทั้งสองทีมกีฬานี้ตัวผู้เล่นมีความมุ่งมั่นและมีจินตนาการการเล่นที่ดี ขาดแต่ผู้นำที่เหมาะสมเพื่อช่วยชี้แนะช่องทางสู่ความสำเร็จ ฟังดูคล้ายทีมโควิดไทยแลนด์ ที่ผู้นำทีมตุปัดตุเป๋มากในระลอกสามนี้ แม้จะดร็อปผู้เล่นบางคนไปแล้ว แต่งานก็ยังออกมาไม่โสภาเท่าไร หวังว่าอาจจะมีโชคช่วยบ้างให้ศึกสงบโดยทิ้งบาดแผลที่ไม่บาดลึกเกินไปนัก

#ปอดอักเสบโควิดไม่ง่ายอย่างที่คิด”